คำสั่งศาลฎีกาที่ 11248 ซึ่งออกเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2024 ได้ให้ข้อคิดที่สำคัญเกี่ยวกับการกำหนดค่าธรรมเนียมทนายความในข้อพิพาททางปกครองที่เกี่ยวข้องกับสัญญาภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลได้ตัดสินว่าข้อพิพาทดังกล่าวไม่ควรถือเป็นคดีที่มีมูลค่าไม่แน่นอน แต่ควรถือตามผลกระทบทางการเงินที่แท้จริง
ประเด็นเรื่องค่าธรรมเนียมวิชาชีพอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกฤษฎีกาของรัฐมนตรีที่ 55 ปี 2014 ซึ่งได้รับการเสริมโดยกฤษฎีกาของรัฐมนตรีที่ 147 ปี 2022 ในบริบทนี้ มาตรา 5 วรรค 3 มีบทบาทสำคัญ โดยกำหนดว่าสำหรับข้อพิพาททางปกครองเกี่ยวกับสัญญาภาครัฐ การพิจารณามูลค่าของผลกำไรที่คาดว่าจะได้รับจากผู้ชนะการประมูลหรือผู้ที่ถูกปฏิเสธนั้นมีความสำคัญ
ข้อพิพาททางปกครองเกี่ยวกับสัญญาภาครัฐสำหรับการจัดจ้างงานและบริการ - การกำหนดค่าธรรมเนียมทนายความ - มาตรา 5 วรรค 3 ของกฤษฎีกาของรัฐมนตรีที่ 55 ปี 2014 ตามที่เสริมโดยกฤษฎีกาของรัฐมนตรีที่ 147 ปี 2022 - ช่วงของคดีที่มีมูลค่าไม่แน่นอน - การบังคับใช้ - การยกเว้น - ผลกระทบทางการเงินของคดี - ความเกี่ยวข้อง ในเรื่องการกำหนดค่าธรรมเนียมทนายความ ข้อพิพาททางปกครองเกี่ยวกับสัญญาภาครัฐสำหรับการจัดจ้างงานและบริการไม่ควรถือเป็นคดีที่มีมูลค่าไม่แน่นอน เนื่องจากมาตรา 5 วรรค 3 ของกฤษฎีกาของรัฐมนตรีที่ 55 ปี 2014 ตามที่เสริมโดยกฤษฎีกาของรัฐมนตรีที่ 147 ปี 2022 ได้ให้ความสำคัญอย่างชัดเจนกับผลกระทบทางการเงินของคดี โดยอ้างอิงจากมูลค่าของผลกำไรที่แท้จริงหรือผลกำไรที่คาดว่าจะได้รับจากผู้ชนะการประมูลหรือผู้ที่ถูกปฏิเสธ
คำตัดสินของศาลฎีกาได้ชี้แจงว่าข้อพิพาททางปกครองเกี่ยวกับสัญญาภาครัฐไม่สามารถถือเป็นคดีที่มีมูลค่าไม่แน่นอนได้ การชี้แจงนี้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญไม่เพียงแต่ต่อทนายความเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกค้าด้วย เนื่องจากมูลค่าของคดีจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ ยังหมายถึงความโปร่งใสและความรับผิดชอบที่มากขึ้นในการกำหนดค่าตอบแทน
โดยสรุป คำสั่งศาลฎีกาที่ 11248 ปี 2024 ถือเป็นก้าวสำคัญในการกำกับดูแลค่าธรรมเนียมทนายความในด้านปกครอง โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณามูลค่าทางการเงินของข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาภาครัฐ และเชิญชวนผู้ปฏิบัติงานด้านกฎหมายให้ลดความคลุมเครือในการกำหนดการให้บริการทางวิชาชีพของตน การพัฒนานี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับความชัดเจนและความเป็นมืออาชีพที่มากขึ้นในสาขากฎหมาย